หากพิจารณาร่าง พ.ร.บ. เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ฉบับแก้ไขล่าสุด มาตรา 41 ได้ระบุว่า สถานบันเทิงครบวงจร ต้องตั้งอยู่ภายในเขตพื้นที่ที่กำหนดตามพระราชกฤษฎีกาเท่านั้น และต้องประกอบไปด้วยธุรกิจสถานบันเทิงตามบัญชีแนบท้ายของพระราชบัญญัตินี้ อย่างน้อยสี่ประเภท ควบคู่ไปกับ กาสิโน โดยสัดส่วนพื้นที่ของกาสิโนภายในสถานบันเทิงครบวงจรจะต้องเป็นไปตามประกาศของคณะกรรมการนโยบาย
หมายความว่า การดำเนินธุรกิจกาสิโนภายในเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ จะต้องมีธุรกิจบันเทิงประเภทอื่น ๆ อย่างน้อย 4 ชนิด จากทั้งหมด 10 ชนิด ที่กำหนดไว้ในบัญชีแนบท้าย ได้แก่
- ห้างสรรพสินค้า
- โรงแรม
- ร้านอาหาร
- สนามกีฬา
- ยอร์ชและครูซซิ่งคลับ
- สถานที่เล่นเกม
- สระว่ายน้ำและสวนน้ำ
- สวนสนุก
- พื้นที่สาหรับส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและสินค้า OTOP
- กิจการอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด
ดังนั้น กาสิโนจะไม่สามารถเปิดให้บริการเดี่ยว ๆ ได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้รูปแบบสถานบันเทิงครบวงจรที่มีองค์ประกอบของธุรกิจบันเทิงอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด
ผู้ประกอบการกาสิโนสามารถเลือกลงทุนในธุรกิจที่ใช้ต้นทุนไม่สูงนัก เช่น พื้นที่ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและสินค้า OTOP หรือ สถานที่เล่นเกม โดยในกรณีแรก อาจเปิดพื้นที่ให้ธุรกิจท้องถิ่นเข้ามาจำหน่ายสินค้าได้โดยไม่ต้องลงทุนเองทั้งหมด ส่วนในกรณีหลัง ธุรกิจสามารถนำเกมบางประเภทมานับรวมเป็นส่วนหนึ่งของกาสิโนได้ เช่น เกมไพ่ออนไลน์ หรือ เกมสล็อตออนไลน์
นอกจากนี้ ข้อที่ 10 ของบัญชีแนบท้ายยังระบุว่า คณะกรรมการนโยบายสามารถกำหนด “กิจการอื่น ๆ” ภายหลัง ซึ่งหมายความว่าสามารถออกข้อกำหนดเพิ่มเติมที่เอื้อต่อธุรกิจของผู้ถือใบอนุญาต หรืออาจส่งเสริมให้สอดคล้องกับธุรกิจกาสิโนภายในเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ได้
หากพิจารณา มาตรา 52 ของร่าง พ.ร.บ. จะพบว่า กาสิโนสามารถดำเนินกิจการได้เฉพาะในสถานบันเทิงครบวงจรและโดยผู้ได้รับใบอนุญาตเท่านั้น โดยเกมที่อนุญาตให้มีในกาสิโนต้องเป็นไปตามประเภทต่อไปนี้
- เครื่องเล่นที่ใช้พลังงานกล ไฟฟ้า แสงสว่าง หรือพลังงานอื่น ๆ ซึ่งเล่นได้โดยการ สัมผัส, เลื่อน, กด, ดีด, ดึง, ยิง, โยน, โยก, หมุน หรือวิธีอื่นที่ทำให้เกิดผลแพ้ชนะ ไม่ว่าจะตัดสินด้วยการนับแต้ม หรือเครื่องหมายใด ๆ ก็ตาม
- อุปกรณ์ที่ใช้ในการตัดสินแพ้ชนะ ซึ่งอาจใช้วิธีนับแต้ม หรือเครื่องหมายใด ๆ เป็นเกณฑ์ในการตัดสิน
หมายความว่า เครื่องเล่นเกมต่าง ๆ ที่เข้าข่ายตามข้อกำหนดนี้ อาจถูกนำมาใช้ภายในกาสิโนได้ ตราบใดที่เป็นไปตามกฎหมายและการควบคุมของผู้ได้รับใบอนุญาต
ขยายขอบเขตการพนัน เพิ่มช่องทางเก็บภาษี
เท่านั้นยังไม่พอ รายงานผลการพิจารณาศึกษาญัตติ เรื่อง การเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) และการจัดเก็บรายได้และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมาย ยังระบุเพิ่มเติมถึง การพนันในรูปแบบ “Gaming” ซึ่งถือเป็นแนวทางใหม่ที่กฎหมายไทยยังขาดองค์ความรู้และความเข้าใจอยู่มาก องค์ประกอบของ Gaming มีทั้งหมด 8 ประเภท ได้แก่
- กาสิโนออนไลน์ (Online Casino Games) รวมถึงเครื่องเล่นการพนันต่าง ๆ ภายในกาสิโน
- การซื้อขายหุ้นและสกุลเงินรายวัน (Day-Trading) ซึ่งใช้การขึ้น-ลงของตลาดหุ้น สกุลเงิน หรือสินทรัพย์มีค่าเป็นพื้นฐานในการเดิมพัน
- พนันกีฬาออนไลน์ (Online Sports Betting) ครอบคลุมทั้งกีฬาสากล กีฬาพื้นบ้าน และการแข่งม้า
- การพนันอิงเหตุการณ์จริง (Betting Exchange) เช่น การเดิมพันผลการเลือกตั้ง
- บิงโกออนไลน์ (Online Bingo)
- การเสี่ยงโชคออนไลน์ (Online Lotteries) ครอบคลุมลอตเตอรี่ไทยและต่างประเทศ
- เว็บไซต์เกมที่ต้องใช้ทักษะ (Skill Gaming Sites) เช่น เกมการต่อสู้ออนไลน์ หรือ E-Sports
- เว็บไซต์เพื่อการฝึกฝน (Practice Sites)
ดังนั้น นิยามของ “การพนัน” จึงขยายออกไปอย่างกว้างขวาง โดยครอบคลุมถึงการซื้อ-ขายหุ้น การเล่นเกมออนไลน์ หรือแม้แต่แพลตฟอร์มฝึกฝนทักษะ ซึ่งตามความเข้าใจของประชาชนทั่วไป แทบจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับการพนันเลยอย่างไรก็ตาม การฝึกฝนทักษะที่สามารถแข่งขันกันได้โดยใช้พัฒนาการของผู้เล่นเป็นตัวตัดสิน อาจถูกจัดอยู่ในขอบเขตของการพนันโดยปริยาย และยิ่งขอบเขตของการพนันขยายกว้างขึ้นเท่าไร อำนาจในการจัดเก็บภาษีที่เกี่ยวข้องก็จะสามารถขยายออกไปได้มากขึ้นตามไปด้วย